สโตรค “Stroke” หรือโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ตีบ แตก ทำให้สมองขาดเลือดและถูกทำลาย เป็นสาเหตุการตายและพิการ มากที่สุดในปัจจุบัน การรับประทานโกจิเบอร์รี่ เพียง 15-20 กรัมต่อวัน จะช่วยดูแลระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกาย ไหลเวียนสะดวก ลดไขมันในเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตันจากไขมันและลิ่มเลือด สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันเส้นเลือดอักเสบ ควบคุมความดันและระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
อาการของผู้ป่วยที่สามารถสังเกตุได้ หากพบควรรีบพบแพทย์ตรวจวินิจฉัยทันที
1. พูดไม่ออกหรือไม่เข้าใจคำพูด หรือพูดไม่ชัดทันทีทันใด
2. แขนขาหรือหน้าอ่อนแรง ขยับไม่ได้ขึ้นมาทันทีทันใด โดยเฉพาะที่เป็นครึ่งซีกของร่างกาย
3. ตาข้างใดข้างหนึ่งมัวหรือมองไม่เห็นฉับพลัน คล้ายมีม่านมาบังตา
4. ปวดศีรษะรุนแรงฉับพลันชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน
5. งุนงง เวียนศีรษะ หรือเสียการทรงตัว
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
- ความดันโลหิตสูง ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับ ที่เหมาะสม โดยรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนเกินไป, ลดอาหารที่เค็ม เน้นอาหารที่เป็นพืช ผัก ผลไม้, หมั่นออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ, และควรตรวจสุขภาพเป็นครั้งคราว
- การสูบบุหรี่ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจและโรคปอด
- โรคหัวใจ เช่น โรคลิ้นหัวใจพิการ โรคหัวใจขาดเลือด จากเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ฯลฯ.
- โรคเบาหวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดแข็งทั่วร่างกาย หากเกิดที่สมองจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติ 2-3 เท่า
- ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และ โรคหลอดเลือดสมอง
ทำไมต้องเป็นโกจิเบอร์รี่ ?
ใน 10 ปีที่ผ่านมาโกจิเบอร์รี่ ได้รับความสนใจในฐานะเป็นผลไม้และยาธรรมชาติแห่งอนาคต มีงานวิจัยคุณประโยชน์มากมาย และได้รับการตีพิมพ์จาก University of Maryland Medical Center ว่าเป็น “Dietary Approaches to Stop Hypertension, or DASH” หรือ อาหารที่ช่วยหยุดภาวะความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีวิตามินสูง ปราศจากไขมัน ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น zeaxanthin , flavonoids, lutein, lycopene and polysaccharides , vitamins A and C, the B vitamins riboflavin and thiamin, แร่ธาตุ เช่น minerals calcium, iron, phosphorus and zinc. สถาบัน Huntington College of Health Sciences ได้ทำการทดสอบสารสกัดจากผลโกจิเบอร์รี่ กับกระต่ายทดลอง ที่มีภาวะเบาหวานและไขมันในเลือดสูง นักวิจัยพบว่า สารสกัดจากผลโกจิเบอร์รี่ ไม่เพียงแต่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังลดคอเลสเตอรอล ชนิดเลว (LDL cholesterol) และไตรกรีเซอไรด์ ได้ด้วย ในระยะ 3 สัปดาห์ หลังเริ่มทดสอบ ซึ่งนักวิจัยพบว่าสารที่มีบทบาทสำคัญคือ สารโพลีแซคคาไรด์ (LBP-1,LBP-2,LBP-3, LBP-4) ในโกจิเบอร์รี่ นั่นเอง งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2004 วารสาร the journal 0f "Life Sciences."
ประโยชน์อื่น ที่ได้รับจากการทาน โกจิเบอร์รี่ คือ ช่วยปกป้องดวงตาจากการเสื่อมตามวัย ลดภาวะตาบอด ตาแห้ง ตาพร่ามัวและช่วยต่อต้านริ้วรอย ส่งเสริมการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย เช่นเซลล์ผิวกาย เซลล์ตับ ไต ชะลอการเสื่อมของร่างกาย
ทาน โกจิเบอร์รี่วันละ 15-20 กรัม หรือ โกจิเบอร์รี่สกัดเพียง วันละ 1 ช้อนชา ช่วยให้อายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ค่ะ
การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
ควรปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งผักและผลไม้ ควบคุมอาหารน้ำมันสูง อาหารหวาน เครื่องดื่มน้ำตาลสูงและแป้งขัดขาว ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆละ 30 นาที ควรพักผ่อนคลายเครียดสม่ำเสมอ นอนให้หลับสนิทวันละประมาณ 8 ชั่วโมง ตรวจสุขภาพประจำปี เมื่ออายุมากขึ้น ควรได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และระดับไขมันในเลือด การตรวจร่างกายทั่วไป โดยแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
References
1. Columbia University Health Services; Go Ask Alice!: Goji Berries – Superfood, Scam, Safe?; December 2008
· 2. University of Texas, El Paso; Herbal Safety: Goji; Armando Gonzalez Stuart, Ph.D.
· 3. Froedtert Hospital & Medical College of Wisconsin; Goji Berry or Lycium; Dena McDowell, MS, RD
· 4. Huntington College of Health Sciences; Goji and Noni – A Review of Two Traditional Medicinal Juices; Gene Bruno, MS, MHS; 2009
· 5. University of Maryland Medical Center: Hypertension
หน้าที่เข้าชม | 278,865 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 189,975 ครั้ง |
เปิดร้าน | 16 ม.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ส.ค. 2568 |